คลินิกศัลยกรรมตกแต่งนายแพทย์นวรัช

คลินิกศัลยกรรมตกแต่งนายแพทย์นวรัช คลินิกศัลยกรรมตกแต่งนายแพทย์นวรัช
(1100)

03/12/2025
16/10/2025

โดยหลักการแล้ว อาหารที่ ไม่ควรทาน หลังผ่าตัดคืออาหารที่ย่อยยาก ระคายเคืองระบบย่อย หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

แต่หลังผ่าตัดใบหน้ามีรายละเอียดเฉพาะเพิ่มเติม โดยเน้นที่การลดการอักเสบและบวมเป็นหลัก
สิ่งเหล่านี้เป็นหลักการคร่าวๆและแนวทางในการดูแล ถ้าทำได้ก็จะมีผลดี แต่ถ้าหลีกเลี่ยงข้อใดไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ต้องไปกังวลมากครับ

1. อาหารรสเค็มจัดและโซเดียมสูง (สำคัญมาก!)

· เหตุผล: โซเดียมทำให้ร่างกายกักน้ำ นำไปสู่อาการบวมเพิ่มขึ้นและบวมอยู่นานกว่าเดิม ซึ่งส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวของใบหน้าโดยตรง
· ตัวอย่าง:
· บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ข้าวกล่องแช่แข็ง, อาหารแปรรูป
· ของหมักดอง (ปลาแห้ง, เต้าเจี้ยว, น้ำปลาร้า)
· ขนมขบเคี้ยวต่างๆ (มันฝรั่งทอด, ข้าวเกรียบ)
· อาหารตากแห้งที่ใส่เกลือมาก

2. อาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ขาดน้ำ

· เหตุผล: การขาดน้ำจะทำให้การฟื้นตัวช้าลง และอาจทำให้ผิวหนังดูแห้ง ไม่สดใส
· ตัวอย่าง:
· เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง และขัดขวางกระบวนการหายของแผล
· เครื่องดื่มคาเฟอีน (ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม): เป็นสารขับปัสสาวะ หากดื่มควรดื่มน้ำเปล่าตามให้มากๆ

3. อาหารที่ต้องใช้การเคี้ยวอย่างหนัก

· เหตุผล: การขยับขากรรไกรมากเกินไปอาจทำให้แผลตึง เจ็บ หรือกระตุ้นการบวมเพิ่ม โดยเฉพาะหากผ่าตัดที่ขากรรไกร กราม หรือใบหน้าส่วนล่าง
· รูปที่ลงไว้ก่อนปี 2017 เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนอย่างเดียว
รูปตั้งแต่ปี 2018 ส่วนใหญ่ใส่เนื้อเยื่อเทียมด้วยครับ:
· เนื้อสัตว์เหนียว: เนื้อสเต็ก, เนื้อแห้ง, หมูยอ
· ของแข็งและกรอบ: แอปเปิ้ลทั้งลูก, ถั่วแข็งๆ, ข้าวโพดคั่ว
· อาหารที่เหนียว: ลูกอมเหนียว, หมากฝรั่ง

4. อาหารที่อาจกระตุ้นการอักเสบ (Inflammatory Foods)

· เหตุผล: อาจทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบมากขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เราต้องการหลังผ่าตัด
· ตัวอย่าง:
· อาหารทอดและของมัน: มันฝรั่งทอด, โดนัท
· อาหารที่มีน้ำตาลสูง: เค้ก, คุกกี้, น้ำอัดลม, น้ำหวาน (น้ำตาลจะไปรบกวนกระบวนการซ่อมแซมคอลลาเจนในผิว)
· อาหารแปรรูป: ไส้กรอก, เบคอน

5. อาหารร้อนจัด (ทั้งอุณหภูมิและรสชาติ)

· เหตุผล:
· อุณหภูมิร้อน: อาจทำให้เส้นเลือดขยายตัว เพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ใบหน้า และทำให้บวมมากขึ้นหรือมีเลือดออกได้
· รสเผ็ดร้อน: อาจกระตุ้นให้เหงื่อออก และทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า

---

สรุป: อาหารที่ควรทานหลังผ่าตัดใบหน้า

ควรเป็นอาหารที่ "อ่อนนุ่ม ย่อยง่าย เคี้ยวน้อย มีประโยชน์ และช่วยลดการอักเสบ"
ส่วนสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง จำง่ายๆก็คือ หลีกเลี่ยงอาหารและการกระทำที่ทำให้เลือดขึ้นหน้าหรือหน้าแดง

เมนูง่ายๆ ถ้าคิดไม่ออก
· มื้อหลัก: โจ๊ก, ข้าวต้ม, ซุปครีม (เช่น ซุปฟักทอง, ซุปมะเขือเทศ), ไข่ตุ๋น, ปลานึ่ง/ต้ม, สมูทตี้
· ของว่าง: นม, โยเกิร์ต, พุดดิ้ง, อะโวคาโดบด, กล้วยบด
· เครื่องดื่ม: น้ำเปล่าอุ่นๆ จำนวนมาก, น้ำผลไม้ที่ไม่หวานจัด (เช่น น้ำแตงโม)

16/10/2025

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery) มีหลายประการ ซึ่งมักเกิดจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือภาพลักษณ์ที่สื่อออกมาในสื่อต่างๆ เช่น:
สับสนระหว่าง​ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery) กับ ศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery):
​ข้อเท็จจริง: ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery) ครอบคลุมทั้งการผ่าตัดเพื่อ สร้างหรือซ่อมแซม เนื้อเยื่อและผิวหนังที่เสียหายจากอุบัติเหตุ ความพิการแต่กำเนิด หรือโรคต่างๆ และยังรวมถึงศัลยกรรมความงามด้วย
​ศัลยกรรมความงาม จึงเป็นแค่เป็นส่วนหนึ่งของศัลยกรรมตกแต่งที่เน้นการ ปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอก เพื่อความสวยงามเป็นหลัก

​การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องของผู้หญิงเท่านั้น:
​ข้อเท็จจริง: จำนวนผู้ชายที่เข้ารับการทำศัลยกรรม (ทั้งผ่าตัดและไม่ผ่าตัด เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์และเพิ่มความมั่นใจ

​ศัลยกรรมตกแต่งจะทำให้ดู "ไม่เป็นธรรมชาติ" หรือ "ดูทำมา":
​ข้อเท็จจริง: ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีทักษะจะมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืน และเสริมให้ดูดีขึ้นโดยไม่ดู "เกินจริง" หรือเปลี่ยนตัวตนมากเกินไป
ผลลัพธ์ที่ดู "ไม่เป็นธรรมชาติ" อาจเกิดจากการผ่าตัดที่ผิดพลาด หรือการทำที่ "มากเกินไป" (Over-enhancement) และอาจมีจุดประสงค์เพื่อให้ดูเด่นและแตกต่างจากคนทั่วไปชัดเจนเพื่อการโฆษณา ซึ่งในชีวิตจริงอาจไม่สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

​การทำศัลยกรรมตกแต่งเป็นกระบวนการที่ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง:
​ข้อเท็จจริง: ทุกขั้นตอนการผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยงเสมอ การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการแก้ไขจะมีความซับซ้อนและยากกว่าการทำครั้งแรก ยิ่งถ้าเป็นงานแก้จากคนที่ไม่ใช่ศัลยแพทย์ตกแต่งจะยากมากขึ้น เปรียบเหมือนที่ช่างชอบบ่นว่าแก้งานจากคนที่ไม่ใช่ช่างจะยากกว่าแก้งานจากช่างด้วยกัน

​ศัลยกรรมตกแต่งจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเลย:
​ข้อเท็จจริง: แผลเป็นหรือพังผืด มีความยืดหยุ่นน้อย และแข็งกว่าเนื้อเยื่อปกติ ถ้ามีมากก็อาจทำให้เกิดการผิดรูปได้ ทุกการผ่าตัดจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ อย่างไรก็ตาม ศัลยแพทย์ตกแต่งจะพยายามเปิดแผลให้เล็กที่สุด ซ่อนแผลเป็นให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ยากที่สุด ใช้วิธีการที่ชอกช้ำน้อยที่สุด และรอยแผลเป็นจะค่อยๆ จางลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นถ้าพบเห็นว่ามีการเชียร์ให้เปิดแผลใหญ่ๆทำเยอะๆ แบบขี่ช้างจับตั๊กแตน ให้กลับมาคิดไตร่ตรองหาข้อมูลและตรวจสอบก่อนตัดสินใจครับ

01/09/2025

ก่อนทำผ่าตัด จำเป็นต้องหยุดยาอาหารเสริมหรือวิตามินไหม ?
เป็นคำถามที่มีประโยชน์มากและได้รับคำถามนี้บ่อยมากครับ
เหตุผลก็คือ ยาวิตามินหรืออาหารเสริมนั้นมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ซึ่งถ้าเป็นการผ่าตัดใหญ่หรือเสี่ยงมากๆแพทย์ก็จะเข้มงวดมาก คือต้องหยุดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดเล็กๆที่แพทย์ควบคุมจุดเลือดออกได้ง่ายๆ บางอย่างแทบไม่มีผลต่อการผ่าตัดก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องหยุดครับ

🔹 ยากลุ่มที่มีต้านการแข็งตัวของเลือด

1. ยาละลายลิ่มเลือด / ยาต้านการเกาะกลุ่มเกล็ดเลือด

แอสไพริน (Aspirin)

คลอปิโดเกรล (Clopidogrel, Plavix)

วาร์ฟาริน (Warfarin)

ยากลุ่ม NOACs (Apixaban, Rivaroxaban, Dabigatran)

📌 ต้องหยุดเฉพาะเมื่อแพทย์อนุญาต เพราะหยุดเองอาจเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดอุดตัน

---

2. ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs)

ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)

นาพรอกเซน (Naproxen)

ไดโคลฟีแนก (Diclofenac)

➡️ อาจทำให้เลือดออกมากขึ้นและหยุดยาก

---

3. วิตามินและอาหารเสริมบางชนิด

วิตามิน E → เพิ่มความเสี่ยงเลือดออก

น้ำมันปลา / Omega-3 → ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด

โสม (Ginseng) → ทำให้เลือดออกง่าย ความดันไม่คงที่

แปะก๊วย กิงโกะ (Ginkgo biloba) → เพิ่มความเสี่ยงเลือดออก

กระเทียมสกัด (Garlic supplement) → ต้านการแข็งตัวของเลือด

ขมิ้นชัน / Curcumin → อาจทำให้เลือดออกง่าย

วิตามิน C → วิตามิน C ปกติต้องการวันละไม่เกิน 100 mg ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและทำให้แผลหายดี ไม่มีผลเสียชัดเจนในการแข็งตัวของเลือด แต่ควรหลีกเลี่ยงถ้ารับประทานในปริมาณที่สูงมาก เช่น 1,000-2,000 มก ต่อวันก็อาจเกิดผลเสียได้ ทำให้เป็นโรคกระเพาะ ท้องเสีย หรือนิ่วในไต

คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่ใช้ในการซ่อมแซม ดีและจำเป็นต่อการหายของแผล คอลลาเจนในอาหารเสริมอาหารเสริม 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ก็ผลิตจากเนื้อปลา การกินคอลลาเจนไม่ได้มีผลเสีย เพียงแต่มักมีวิตามิน C อยู่ในส่วนผสมด้วย

4. อาหารเสริมที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ / ความดัน

คาเฟอีนเข้มข้น, กัวรานา

สารกระตุ้นสมรรถภาพ (บางชนิดมีผลต่อหัวใจและความดัน)

---

🔹 สิ่งที่ควรทำ

- แจ้งแพทย์ ว่ามีการใช้ยา วิตามิน หรือสมุนไพรใดๆ อยู่
- ไม่ควรหยุดยาด้วยตนเอง แม้ยาบางชนิดจะมีผลให้เลือดหยุดช้าได้ แต่การหยุดยาอาจมีอันตรายมากกว่า ในการผ่าตัดบางชนิดแพทย์อาจไม่ให้หยุดยาก็ได้
- แต่ละอย่างจะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดต่างกัน แพทย์จะพิจารณาให้ครับ
- หากเป็นผ่าตัดเล็ก แพทย์อาจอนุญาตให้ใช้ยา ให้ทานวิตามินหรืออาหารเสริมต่อได้ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหยุดครับ

ปัจจุบันมีข่าวเรื่อยๆว่ามีแพทย์เถื่อน คือไม่ได้เรียนจบวิชาแพทย์มาเลย หรือแพทย์ที่แอบอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานั้นสาขาน...
17/08/2025

ปัจจุบันมีข่าวเรื่อยๆว่ามีแพทย์เถื่อน คือไม่ได้เรียนจบวิชาแพทย์มาเลย หรือแพทย์ที่แอบอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานั้นสาขานี้ สร้างความเสียหายทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และเมื่อพลาดถูกหลอกไปแล้วก็จะรักษาตัวหรือแก้ไขให้กลับมายากหรืออาจจะไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้เลย

แพทย์สภาได้ออกประกาศเตือนเป็นระยะแต่การประชาสัมพันธ์ก็ยังมีไม่เพียงพอ

วิธีง่ายๆคือเข้าลิ๊งค์วิธีตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากทางแพทย์สภาว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ และได้รับวุฒิบัตรความรู้ความชำนาญในสาขาใด https://checkmd.tmc.or.th/

หรือตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรศัลยศาสตร์ตกแต่ง https://www.thprs.org/find-doctor

ตรวจสอบแพทย์ - แพทยสภา :: The Medical Council of Thailand

12/08/2025

การแก้ไขจมูกที่เคยฉีดฟิลเลอร์ ทำไมถึงยากกว่าปกติ?

การแก้ไขจมูกในผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ มาก่อนนั้นมีความซับซ้อนและยากกว่าการเสริมจมูกในคนที่ไม่เคยทำหัตถการใดๆ มา เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้

- ฟิลเลอร์กระตุ้นให้ร่างกายสร้างพังผืด หุ้มรอบ ๆ เนื้อสาร พังผืดนี้ทำให้เนื้อเยื่อแข็งและยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้การเปิดแผลและจัดรูปทรงใหม่ทำได้ยาก

- บางครั้งอาจมีสารอื่นๆ ปนเปื้อนอยู่ด้วย ถ้าฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะฟิลเลอร์เถื่อนที่แอบฉีดโดยหมอกระเป๋า ซึ่งสารเหล่านี้จะไม่สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ ยังอาจก่อให้เกิดผังผืดและ การอักเสบติดเชื้อเรื้อรังได้ ซึ่งถ้ามีการเสริมใหม่ก็จะทำให้ซิลิโคน เนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนที่ใส่เข้ามาใหม่ติดเชื้อตามไปด้วย

- ฟิลเลอร์อาจไหลหรือกระจายไม่เท่ากัน ทำให้เนื้อจมูกไม่สมดุลผิดรูป แม้เอาออกแล้ว อาจเหลือผิวเป็นคลื่นหรือมีความหนาไม่สม่ำเสมอ

- การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำ ๆ หรือการฉีดที่ไม่ถูกชั้น อาจทำให้เส้นเลือดเล็ก ๆ ถูกทำลายหรืออุดตันบางส่วน อาจทำให้ผิวหนังตายและเกิดแผลที่ไม่หายได้

- การคาดเดาผลลัพธ์ยาก เพราะเนื้อจมูกจะผิดรูปและแข็งผิดไปจากปกติ แต่ละส่วนก็แข็งไม่เท่ากัน แพทย์ต้องใช้เทคนิคซับซ้อนมากขึ้น หรือใช้เทคนิคต่างๆมากขึ้น

- ฟิลเลอร์บางชนิดจะเกาะติดกับเนื้อเยื่อจนแยกออกยากจนต้องตัดเนื้อเยื่อปนออกไปด้วย ทำให้เนื้อจมูกบางลง → เสี่ยงทะลุ

*** ถ้าจะสรุปสั้น ๆ คือ จมูกที่เคยฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้เนื้อเยื่อเปลี่ยนไปทั้งโครงสร้างและรูปทรงผิดปกติ มีความยืดหยุ่นน้อยลง ยิ่งฉีดปริมาณมากก็จะยิ่งมีความผิดปกติมาก ทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ไม่ตรงตามที่คาดหวัง และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูงกว่าครับ

แล้วใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก?

แม้การฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อน แต่ก็มีข้อดีถ้าเลือกใช้อย่างถูกต้อง คือจะใช้ในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติมในบริเวณนั้นๆเพียงเล็กน้อย เช่น สันจมูก ปลายจมูก หรือเติมเต็มจมูกส่วนที่คดเล็กน้อย หรือส่วนที่เป็นรอยบุ๋ม
แต่สำหรับคนที่ฉีดเพราะแค่กลัวการผ่าตัด ใจร้อนต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว ต้องการแก้ไขแบบชั่วคราว การฉีดก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
แต่ก่อนตัดสินใจฉีด ให้หยุดฟังเสียงเชียร์ ทำใจให้นิ่งๆ พิจารณาว่า แน่ใจหรือไม่ว่าจะฉีดแล้วฉีดเลย แค่ฉีดอย่างเดียว และพอใจแค่นั้น แน่ใจนะว่าจะไม่ทำผ่าตัดอะไรบริเวณนั้นเพิ่มอีก หลังจากคิดดีแล้วก็ฉีดเท่าที่จำเป็น และเลือกฉีดในสถานที่ที่ได้มาตรฐานและมีจริยธรรม ครับ

การตะไบฮัมพ์ในการเสริมจมูก คืออะไร  การตะไบฮัมพ์ (nasal hump reduction) คือการลดกระดูกส่วนเกินบริเวณสันจมูก   โดยหมอจะปร...
01/07/2025

การตะไบฮัมพ์ในการเสริมจมูก คืออะไร

การตะไบฮัมพ์ (nasal hump reduction) คือการลดกระดูกส่วนเกินบริเวณสันจมูก
โดยหมอจะประเมินขนาดและตำแหน่งของฮัมพ์ จากนั้นจะใช้เครื่องมือตะไบจมูก (rasp) หรือเครื่องมือตัดกระดูกขนาดเล็ก ค่อยๆ ลดขนาดของกระดูกหรือกระดูกอ่อนส่วนเกินที่เป็นฮัมพ์ออกเพื่อให้ได้สันจมูกที่เรียบ ต้องทำตามความจำเป็นพอดีๆ ไม่มากเกินไปจนจมูกดูแบน

ประโยชน์หลักๆ คือการช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงของกระดูกสันจมูกให้มีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกที่ไม่สมมาตร มีปุ่มหรือผิดรูปมาก่อน
จมูกที่มีฮัมพ์อาจทำให้ใบหน้าดูแข็งกระด้าง น่าเกรงกลัว หรือดูไม่เป็นมิตร อาจทำให้มุมระหว่างหน้าผากกับจมูกดูหักแหลมหรือขรุขระ การตะไบฮัมพ์จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนโยนและสมดุลมากขึ้น
การตะไบฮัมพ์จะช่วยปรับพื้นผิวของสันจมูกให้เรียบ ทำให้วัสดุที่เสริมเข้าไปแนบสนิทและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ต้องเหลาซิลิโคนให้หลบกระดูกหรือชดเชยมากจนซิลิโคนขาดความแข็งแรง ลดโอกาสที่ซิลิโคนจะโก่งตัวหรือเห็นขอบได้
หลังการตะไบฮัมพ์ อาจมีอาการบวมช้ำมากกว่าการเสริมจมูกทั่วไปเล็กน้อย

การตะไบฮัมพ์มีผลเสียอะไรไหม

การตะไบที่มากเกินไปหรือไม่จำเป็นอาจทำให้เยื่อหุ้มกระดูกถูกกระตุ้นให้สร้างกระดูกใหม่ในลักษณะที่ผิดปกติ เช่น มีการสร้างกระดูกมากเกินไป (heterotopic ossification) หรือสร้างในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้กระดูกเสียรูปทรงได้เช่นกัน

แล้วการตะไบฮัมพ์ควรทำไหม

โดยทั่วไปถ้าใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปซึ่งส่วนท้องของซิลิโคนจะเรียบ เมื่อนำมาเสริมจมูกในคนที่มีฮัมพ์ แม้ฮัมพ์ที่ไม่มากก็จะเกิดปัญหาโก่งงอหรือจมูกผิดรูป จึงจำเป็นจะต้องตะไบเพื่อปรับกระดูกฐานจมูกให้เข้ากับซิลิโคน
แต่ถ้าใช้ซิลิโคนแบบเหลา หมอสามารถเหลาหลบหรือชดเชย คือเหลาซิลิโคนให้เข้ากับฐานกระดูก (ไม่ใช่ตะไบกระดูกให้เข้ากับฐานซิลิโคน) ส่วนใหญ่จึงไม่มีความจำเป็นต้องตะไบฮัมพ์ เหลือเพียงแค่ส่วนน้อยที่ฮัมพ์สูงมากจนถ้าเหลาซิลิโคนชดเชยอย่างเดียวซิลิโคนจะคอดหรือบางจนขาดความแข็งแรงไปได้ จึงจะจำเป็นต้องตะไบด้วย แต่ก็จะตะไบออกเพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็นซึ่งก็ทำให้มีการชอกช้ำน้อย และหลีกเลี่ยงการเสียรูปทรงของกระดูกได้

แล้วการตะไบจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไหม

ในที่ที่ทำตามหลักวิชาการหรือตามหลักของศัลยกรรมตกแต่ง หมอจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงการทำลายโครงสร้างเดิม และทำให้เกิดความชอกช้ำน้อยที่สุด คือจะตะไบเฉพาะกรณีที่จำเป็นเพื่อให้ได้ผลออกมาดี กรณีแบบนี้มักไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนอกจากในกรณีที่ยากจริงๆ
แต่ถ้าทำในที่ที่เน้นธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งมักจะมาเป็นชุด เช่น ตะไบ ตอกฐาน เย็บอินเตอร์โดม ซึ่งแม้ในบางคนจะไม่มีความจำเป็นต้องทำหรือทำแล้วจะยิ่งแย่ลงก็ตาม ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามเหตุผลด้านธุรกิจครับ

#ศัลยกรรม #คลินิกศัลยกรรม #เสริมจมูก #แก้จมูก #ชลบุรี #ศรีราชา #หมอศัลยกรรม #คลินิก #หมอศัลย์

ที่อยู่

ถนน สุขุมวิท
Si Racha
20110

เวลาทำการ

อังคาร 08:30 - 17:30
พุธ 08:30 - 17:30
ศุกร์ 08:30 - 17:30
เสาร์ 08:30 - 12:00

เบอร์โทรศัพท์

+66894496290

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกศัลยกรรมตกแต่งนายแพทย์นวรัชผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram