คลังยา มาร์เก็ต

05/01/2024

บรรยากาศ ความสุขส่งท้ายกิจกรรม 🎉

ขอบคุณสำหรับความวางใจที่มอบให้คลังยามาร์เก็ตเสมอมา ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง สวัสดีปีใหม่ครับ

31/12/2023

บรรยากาศ ความสุขยังคงต่อเนื่อง.. แวะกันมานะครับ 🎉

28/12/2023

บรรยากาศ ความสุขเริ่มต้นแล้ว.. แวะกันมานะครับ 🎉

25/12/2023

Merry Christmas and Happy New Year
#คลังยามาร์เก็ตอยากแจก
เพียงซื้อสินค้าที่ไม่ใช่ยาครบ 300 บาท
ลุ้นจับรางวัลของที่ระลึกมากมายครับ

01/12/2023

✨ เมื่อ.. ลูกค้าถามหา จัดโปรมาฝาก ✨

👵🏻 สว บ้านไหน 🧓🏻 ทานเอนชัวร์ โกลด์ กันอยู่ ต้องมาตำแล้วแหละค่า #ของมันต้องมี #สต๊อกกันไว้

เอนชัวร์ โกลด์ 850กรัม พิเศษ!! กระป๋องละ 790฿
💥เพียง 7 วันเท่านั้น 1 - 7 ธันวาคม 2566 นี้

#โปรโมชั่นส่งท้ายปี #คลังยามาร์เก็ต

29/11/2023

🌧️ ปลายฝน ต้นหนาวแบบนี้ 🌧️

👦🏻 เด็กๆ 👧🏻 บ้านไหนใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเยอะขึ้นกันบ้างงง ต้องมาตำแล้วแหละ #ของมันต้องมีนะแม่

มามีโพโกะ แฮปปี้ เดย์แอนด์ไนท์ ราคาพิเศษ ห่อละ 60฿ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าของจะหมด

#โปรโมชั่นส่งท้ายปี #คลังยามาร์เก็ต

04/10/2023

เตรียมยาไป!! เหลือดีกว่าขาดแหละ 😎

ปิดเทอมกันแล้ว พกความสบายใจด้วยการพกพายาที่สามารถให้เด็กๆ กินก่อนเพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้น พญ.กัลย์สุดา อริยะวัตกุล แนะนำไว้ต้องมีติดกระเป๋าเดินทาง 3 หมวดค่ะ

หมวดหมู่ที่ 1 ไข้หวัด ยาในกลุ่มไข้หวัด น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ
- พาราเซตามอล แก้ปวด ลดไข้
- ยาแก้ไอ บรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ
- ยาลดน้ำมูก/ยาแก้แพ้
- น้ำเกลือ และอุปกรณ์การล้างจมูก

หมวดหมู่ที่ 2 ท้องเสีย อาเจียน อาหารเป็นพิษ
- แก้คลื่นไส้อาเจียน
- แก้ปวดบิดท้อง/ขับลม
- ผงเกลือแร่ ORS ผสมน้ำ ชดเชยการเสียน้ำจากการอาเจียนและท้องเสีย

หมวดหมู่ที่ 3 แมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำ ผื่นแพ้ แผลต่างๆ
- อุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้น ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำเกลือ ผ้าก๊อซ พลาสเตอร์ เทปติดแผล ยาใส่แผล
- ยาทาสเตียรอยด์ ใช้ทาเวลาเป็นผื่นแดง คัน หรือโดนแมลงสัตว์กัดต่อย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก: Mama Expert

05/09/2023

O_O 6 โรคฮิตหน้าฝน ที่เด็กเล็กต้องระวัง O_O

O_O 6 โรคฮิตหน้าฝน ที่เด็กเล็กต้องระวัง O_O : RSV มือเท้าปาก ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ ท้องเสีย IPD

เพราะเด็กเล็กทุกคนมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน การป้องกันและหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากบุตรหลานมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพราะการวินิจฉัยโรคได้เร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความรุนแรงของโรคได้มากขึ้น

เครดิตภาพจาก: AstraZeneca

29/08/2023

ระวัง!! ตาแดง ของเค้ามาแรงช่วงนี้

"ตาแดง" โรคระบาดช่วงหน้าฝน

วันนี้หน้าร้าน เคสตาแดงมากันหลายราย เลยขอหยิบโรคตาแดง มาฝากกันเพื่อดูแล ป้องกัน และรับมือกันได้อย่างถูกต้องนะคะ

เครดิตภาพจาก: สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

26/08/2023

ฮัลโหลลล.. เมื่อนัดกันแล้ว ใครตรง ใครสาย ตามนี้ไหม??

25/08/2023

พี่เภ.. มาต่อแล้ว โรคมะเร็ง 5 อันดับแรกที่คนไทยเป็นมากที่สุด จากครั้งก่อน อันดับ 4 มะเร็งเต้านม วันนี้มาต่อที่ อันดับ 5 มะเร็งลำไส้ใหญ่

5. มะเร็งลำไส้ใหญ่ ถือเป็นภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงาน โดยอาการเตือนที่มักปรากฏให้เห็นของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่น อุจจาระมีเลือดปน น้ำหนักลด ลำไส้อักเสบเรื้อรัง

** ปัจจัยเสี่ยง **
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แน่ชัด แต่พบว่าอาจมีปัจจัยมาจากอาหารและสิ่งแวดล้อม โดยการรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน ไขมันและน้ำตาลสูง ผู้ที่มีดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน หรือโรคอ้วน เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

นอกจากนี้ยังพบปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่า 2 คนขึ้นไป เคยมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ เคยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง และการสูบบุหรี่

** อาการ ** หากคุณมีอาการเหล่านี้ คุณอาจกำลังเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
▪ ท้องอืดเรื้อรัง ท้องอืดไม่ทราบสาเหตุ
▪ ท้องผูกสลับท้องเสีย
▪ อุจจาระมีเลือดเจือปน
▪ รู้สึกถ่ายไม่สุด
▪ น้ำหนักลดผิดปกติ อ่อนเพลีย
▪ คลำเจอก้อนในท้อง
▪ มีอาการโลหิตจาง

** ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม **
▪ งดอาหารไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง
▪ รับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ
▪ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
▪ ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ด้วยการส่องกล้อง
▪ ตรวจสุขภาพประจำปี
▪ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
▪ ไม่ควรอั้นอุจจาระ เมื่อปวดควรขับถ่ายทันที

เครดิตภาพและข้อมูลจาก: โรงพยาบาลศิครินทร์

23/08/2023

พี่เภ.. มาต่อแล้ว โรคมะเร็ง 5 อันดับแรกที่คนไทยเป็นมากที่สุด จากครั้งก่อน อันดับ 3 มะเร็งปากมดลูก วันนี้มาต่อที่ อันดับ 4 มะเร็งเต้านม

4. มะเร็งเต้านม พบอุบัติการณ์มากเป็นอันดับแรกในหญิงไทยและหญิงทั่วโลก และสามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย แต่การตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ประสบผลสำเร็จได้

** เกิดจากอะไร? **
มะเร็งเต้านม เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนม ซึ่งพบได้มากที่สุด ประมาณ 80% ส่วนมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต่อมน้ำนม จะพบได้น้อยกว่า โดยพบประมาณ 10% นอกจากนี้ มะเร็งชนิดนี้อาจเกิดขึ้นจากการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะส่วนอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

** ปัจจัยเสี่ยง ** พบว่ามีหลายปัจจัยที่ยืนยันแล้วว่ามีความสัมพันธ์กับโอกาสเกิดมะเร็งเต้านม ทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ได้แก่
- เพศ: เพศหญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ชายถึง 100 เท่า
- เชื้อชาติ: ผู้หญิงในชาติตะวันตก จะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิงเอเชีย
- การมีบุตร และการให้นมบุตร: การศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีการคลอดบุตร เลี้ยงบุตรด้วยนมของตัวเอง จะช่วยป้องกันโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมได้ ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่ไม่มีบุตร เป็นหมัน กินยาคุมกำเนิด หรือไม่ได้เลี้ยงบุตรด้วยน้ำนมตัวเองนั้น จะมีความโอกาสเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
- ฮอร์โมนเพศ: ประจำเดือนมาตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ หรือวัยหมดประจำเดือนมาถึงช้า ทำให้ร่างกายผู้หญิงมีโอกาสสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนนานขึ้น จึงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากยิ่งขึ้น
- อายุ: เมื่อมีอายุมากขึ้น โอกาสเกิดความผิดปกติของยีนในเซลล์ก็จะเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อการเกิดมะเร็งได้ (จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงอายุน้อยกว่า 45 ปี มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมประมาณ 1 ใน 8 ในขณะที่ผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป มีโอกาสพบมะเร็งเต้านมประมาณ 2 ใน 3)
- ความอ้วน: โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
- หน้าอกแน่น(Dense Breasts): การมีหน้าอกแน่น หมายถึงการมีเนื้อเยื่อและต่อมน้ำนมมากกว่าคนอื่นๆ จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่า นอกจากนี้ โครงสร้างเนื้อเยื่อที่หนาแน่น ก็ทำให้แพทย์มองเห็นมะเร็งด้วยแมมโมแกรมได้ยากขึ้นด้วย (การพิสูจน์ว่าหน้าอกแน่น ไม่ได้เกิดจากการทดลองสัมผัสเต้านมดูว่ากระชับไหม คนที่มีหน้าอกกระชับ ไม่ได้แปลว่าจะมีหน้าอกแน่นเสมอไป ต้องเป็นการวินิจฉัยโดยแพทย์ผ่านการทำแมมโมแกรมดูโครงสร้างเนื้อเยื่อเท่านั้น)
- มีประวัติของโรคและการรักษาเกี่ยวกับเต้านม: หากเคยมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับเต้านม หรือเคยได้รับการฉายรังสีในบริเวณดังกล่าว จะเพิ่มความเสี่ยงได้
- พันธุกรรม: มีประวัติโรคมะเร็งเต้านมทางครอบครัว โดยเฉพาะหากญาติที่เป็นมะเร็งชนิดนี้เป็นญาติสายตรง จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น เช่น แม่ น้องสาว พี่สาว
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ผู้หญิงกลุ่มที่ดื่มแอลกฮอล์เป็นประจำ จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้หญิงที่ไม่ดื่ม
- เป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่งแล้ว: หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่ง จะมีความเสี่ยงถึง 3 – 4 เท่า ที่จะเกิดมะเร็งขึ้นที่เต้านมอีกข้างหนึ่ง
- ควันบุหรี่: การสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่(ควันบุหรี่มือสอง) มีส่วนเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม

** อาการ ** สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเราอาจเป็นมะเร็งเต้านม สามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง ได้แก่
- คลำพบก้อนที่เต้านม หรือบริเวณรักแร้ หากเป็นระยะเริ่มแรกของมะเร็ง จับแล้วมักไม่รู้สึกเจ็บ จึงไม่ควรชะล่าใจ อย่าคิดเองว่าไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ใช่มะเร็ง
- เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติต่างๆ ขึ้นที่เต้านมเพียงข้างเดียว
- เต้านมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มจากเป็นข้างใดข้างหนึ่ง
- รูปร่างของเต้านมเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม โดยที่ไม่เคยผ่าตัดมาก่อน
- มีการเปลี่ยนแปลงของผิวเต้านม เช่น ผิวหนังแข็งหรือหนาขึ้น มีก้อนเนื้อที่นูนขึ้นหรือขรุขระ มีสีผิวเปลี่ยนแปลงไป เกิดแผลเรื้อรัง (หรือแผลที่รักษาไม่หาย) หรือเป็นรอยรูขุมขนชัดขึ้นเหมือนเปลือกผิวส้ม
- มีอาการเจ็บปวดเต้านมข้างหนึ่ง อาจเป็นเล็กน้อยหรือเป็นมากก็ได้
- มีอาการบวมแดงตรงเต้านม อาจปวดหรือมีแผลในบริเวณที่บวมแดงร่วมด้วย
- มีรอยบุ๋มหรือย่นบริเวณเต้านม
- มีอาการเน่าของหัวนม หรือส่วนอื่นๆ บริเวณเต้านม
- หัวนมบุ๋มเข้าไปในเต้านม หรือไม่สม่ำเสมอ โดยไม่ได้เป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด
- มีเลือดและ/หรือของเหลว เช่น น้ำเหลืองใสๆ ที่ผิดปกติไหลออกจากหัวนม หรือผู้หญิงที่ยังไม่มีเกณฑ์ให้นมบุตร แต่มีน้ำนมไหลออกมาผิดปกติ ก็ถือว่าเป็นอาการสัญญาณเตือนด้วยเช่นกัน
- มีแผลที่บริเวณหัวนม มีลักษณะเป็นแผลสีแดง และมักจะรักษาไม่หาย

หากมีอาการดังกล่าว ให้มาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียดอีกที แต่อย่าตื่นตระหนก เนื่องจากอาการบางอาการ ยังไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเราเป็นมะเร็งเต้านมแน่ๆ แต่เป็นอาการที่พบได้บ่อยและมักสัมพันธ์กับมะเร็ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก: โรงพยาบาลพระรามเก้า