29/08/2023
โรคตาแดงที่แฝงมากับหน้าฝน!
#โรคตาแดง
เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตาขาว ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย รวดเร็ว และทำให้เกิดอาการขึ้นอย่างเฉียบพลัน พบมีการระบาดเป็นช่วงๆ มักเป็นในฤดูฝน โดยหลังจากได้รับเชื้อแล้วจะทำให้เกิดอาการภายใน 1-2 วันและระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 14 วัน
#อาการของโรคตาแดง
อาการของโรคตาแดงอาจเกิดกับดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างก็ได้ ในกรณีที่เป็นสองข้าง ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการที่ดวงตาข้างหนึ่งก่อนแล้วจึงลามไปอีกข้างภายใน 2-3 วัน โดยอาการที่พบได้แก่
ตาแดง
ปวดเล็กน้อยในเบ้าตา
คันตา เคืองตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา
น้ำตาไหล
เปลือกตาบวม อาจพบตุ่มเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป
ในกรณีที่ติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย จะมีขี้ตามากทำให้ลืมตายากในช่วงตื่นนอน
ระยะเวลาของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือ ในระยะที่อาการตาแดงเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการกระจกตาอักเสบจากเชื้อไวรัสที่ลุกลามไปยังกระจกตา ส่งผลให้มีอาการตาพร่ามัว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการตามัวอาจคงอยู่นานถึง 1-2 เดือน
#สาเหตุของโรคตาแดง
โรคตาแดงเกิดจากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยตาแดง เช่น น้ำตา ขี้ตาที่ติดอยู่ตามสิ่งของ พื้นผิวต่างๆ หรือในน้ำ แล้วมาสัมผัสที่ตา, การใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา เครื่องสำอาง,การเล่นน้ำในที่ท่วมขังและสกปรก หรือจากการที่พาหะโรค เช่น แมลงหวี่ แมลงวัน นำมาสู่ตาเรา สาเหตุของโรคตาแดง ได้แก่
1. เชื้อไวรัส ที่พบบ่อย คือ Adenoviruses และ Herpes Simplex viruses
2. เชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อย คือ Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumoniae และHaemophilus influenzae
3. โรคภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ ละอองเกสรดอกไม้ น้ำหอม เครื่องสำอาง ควันบุหรี่ ไรฝุ่น หรือแม้แต่ยาหยอดตาบางชนิด
4. สาเหตุอื่น เช่น สารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ที่มีความเป็นกรดหรือด่างมาก, การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา, การใส่ Contact lens, โรคภูมิต้านตนเอง (Autoimmune)
#การติดต่อของโรคตาแดง
โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเป็นการติดต่อจากการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรงไม่ว่าจะเป็น
1.การคลุกคลีใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยโรคตาแดง
2.ใช้เสื้อผ้าหรือสิ่งของร่วมกับผู้ป่วย
3.ปล่อยให้ฝุ่นละอองหรือน้ำสกปรกเข้าตา
4.ปล่อยให้แมลงหวี่หรือแมลงวันตอมตา
5.ไม่รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะมือและใบหน้า
#การป้องกัน
1. ล้างมือให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอ
2. ไม่คลุกคลี ใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย
3. ถ้ามีฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที
4. อย่าปล่อยให้มีแมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา
5. หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่ายกาย สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอนปลอกหมอน ให้สะอาดอยู่เสมอ