หมอหยิน สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี

หมอหยิน สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก หมอหยิน สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี, การแพทย์และสุขภาพ, สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี, Surat Thani.

ฆสพ.สฎ. ๓๐/๒๕๖๓
เลขที่ใบอนุญาตคลินิก : 84108000363
การแพทย์แผนไทย / Traditional Thai Medicine
Herb • Health • Healing • Massage 🍃
จองคิวก่อนเข้ารับบริการ / ไม่รับCase Walk in
พท.สุธาสินี เธียรปรีชา พท.ว.23307

26/11/2025

หากท่านใดต้องการร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รายการสิ่งของเหล่านี้คือสิ่งที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต้องการและจำเป็นอย่างมากในขณะนี้ค่ะ

26/11/2025
24/11/2025

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี
เปิดรับบริจาค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และของใช้ที่จำเป็น
เพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา

ร่วมบริจาคได้ที่
จุดรับบริจาคชั้น 1 (ข้างเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์)
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี
📍วันที่ 24 - 30 พ.ย. 2568
เวลา 10.00-21.00 น.

เราหวังเป็นอย่างยิ่งให้ทุกคนปลอดภัย
และให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด


#เซ็นทรัลพัฒนา

21/11/2025

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) ทำให้สะสมน้ำในคอเคลียร์และอวัยวะรับการทรงตัวไปเรื่อยๆ จนเยื่อฉีก สัญญาณไฟฟ้าของการได้ยินและการทรงตัวผิดปกติ ทำให้หูดับบ้านหมุน จนกว่าเยื่อจะฮีล


ในหูชั้นใน จะมีสองอวัยวะที่สำคัญคือ

▪️คอเคลียร์ (Cochlear) อวัยวะรูปก้นหอย รับสัญญาณเสียง แปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังสมอง

▪️อวัยวะรับการทรงตัว (Vestibular organ) ติดกับคอเคลียร์ มี 3 ส่วนคือ Saccule, Utricle, Semicircular canal รับสัญญาณการทรงตัว แปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังสมอง


ถึงแม้ว่าจะมีหน้าที่ต่างกัน แต่หลักการทำงานคล้ายกันคือ
ในสองอวัยวะนี้จะมีท่อเรียกว่า Endolymphatic duct ซึ่งมีน้ำเรียกว่า endolymph อาบอยู่ น้ำนี้มีความพิเศษกว่าน้ำเลือดคือมีไอออนโพแทสเซียมสูง

ซึ่งน้ำนี้สร้างโดยเนื้อเยื่อกรองน้ำเลือดพิเศษเรียกว่า Stria vascularis

ภายในผิวของท่อ จะมีเซลล์รับคลื่นกลในน้ำ
ชื่อว่าเซลล์ขน (Hair cells) หากมีคลื่นน้ำเคลื่อนผ่าน จะกระตุ้นทันที


หลักการทำงานในภาวะปกติจะเป็นดังนี้ค่ะ

🔹 คอเคลียร์: เสียงกระทำเยื่อแก้วหู
⮕ สั่นกระดูก ค้อน
⮕ สั่นกระดูกทั่ง
⮕ สั่นกระดูกโกลน
⮕ สั่นน้ำ endolymp ในคอเคลียร์
⮕ คลื่นน้ำไหลผ่านเซลล์ขน
⮕ เกลือแร่โพแทสเซียมเข้าเซลล์ขน
⮕ แปลงเป็นไฟฟ้าไปยังสมอง ⮕ รับรู้เสียง

🔹 อวัยวะรับการทรงตัว: มีการเคลื่อนไหวศีรษะ/แรงโน้มถ่วง
⮕ endolymph ไหล
⮕ คลื่นน้ำไหลผ่านเซลล์ขน
⮕ เกลือแร่โพแทสเซียมเข้าเซลล์ขน
⮕ แปลงเป็นไฟฟ้าไปยังสมอง
⮕ รับรู้การทรงตัว


ในโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น (Meniere’s disease) ปัจจุบันยังไม่ทราบกลไกแน่ชัด แต่ที่ทราบคือผู้ป่วยจะมีการสะสมน้ำ endolymph ทั้งในคอเคลียร์และอวัยวะรับการทรงตัวไปเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก

▪️มีพันธุกรรมที่ทำให้โปรตีนขนส่งเกลือแร่และขนส่งน้ำ
ทำให้บางช่วงจะมีการสะสมน้ำมากกว่าปกติ
▪️มีการติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เชื้อเริม, เชื้อไวรัส EBV เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบโดยตรง หรือ อักเสบแล้วโปรตีนในหูชั้นใน ไปเจอกับภูมิคุ้มกันแล้วเข้าใจผิดคิดว่าเชื้อ จึงสร้างภูมิมาทำให้หูชั้นในอักเสบ ขวางการระบายน้ำ


คนที่เป็นจะเกิดเหตุการณ์ดังนี้ค่ะ

1️⃣ เมื่อเริ่มมีกลไกผิดปกติทำงาน จะมีการสะสมน้ำ endolymph ในอวัยวะเหล่านั้นมากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดจากสร้างมากหรือระบายน้อยก็ได้

2️⃣ เมื่อสะสมจนเกินกว่าที่ท่อ endolymphatic จะทนไหว จะเกิดการฉีกขาดเล็กๆ (microruptured) ของเยื่อกั้นรอบๆ (Reissner’s membrane) ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างน้ำ endolymph กับน้ำเหลืองรอบๆ

3️⃣ เกลือแร่โพแทสเซียมสูงในท่อรั่วออกยังน้ำเหลืองรอบๆ ผลคือมีการลดลงของโพแทสเซียมใน endolymph ฉับพลัน

4️⃣ เนื่องจากโพแทสเซียมเป็นสื่อสำคัญในการสร้างไฟฟ้าในเซลล์ขน ผลคือ ทั้งคอเคลียร์และอวัยวะรับการทรงตัวนั้นหยุดสร้างสัญญาณไฟฟ้าไปยังสมอง

5️⃣ ช่วง attack คนไข้จึงมีภาวะหูข้างนั้นได้ยินลดลงทันที ส่วนสัญญาณการทรงตัวนั้น สัญญาณจากข้างที่เป็นหายไป ทำให้สมองแปลผลผิดว่า อวัยวะรับการทรงตัวอีกข้างแรงกว่า ผลคือสมองตีความว่า “หัวกำลังหมุน” เลยสร้างการรับรู้หลอกๆ ว่าแวดล้อมหมุน จึงเกิดอาการบ้านหมุน เดินเซ

6️⃣ อาการจะปรากฎจนกว่า เนื้อเยื่อ Stria vascularis จะปรับสมดุลไอออนกลับมา และเยื่อที่ขาดฮีลจนปิด อาการก็จะหยุดลง


ดังนั้นคนเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จะมีอาการเป็นช่วงๆ ค่ะ คือมีช่วงปกติ แล้วพอเริ่ม attack จะมีหูดับ กับบ้านหมุน อาการค่อนข้างรุนแรงมาก

บางคนมีอาการแน่นในหูนำมาก่อน
ในช่วงที่น้ำสะสมในท่อ endolymphatic จนเต็มพิกัดก่อนเยื่อฉีก


สรุป: โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน = มีการสะสมของเหลว (endolymph) ในอวัยวะรับเสียงและการทรงตัวมากไป จนฉีกผนังขาด ของเหลวที่มีโพแทสเซียมรั่วออก จนอวัยวะเหล่านี้ขาดโพแทสเซียมในการสร้างสัญญาณไฟฟ้า เลยเกิดทั้งบ้านหมุน + หูดับ จนกว่าสมดุลโพแทสเซียมกลับมาอีกครั้ง


คนที่เป็นช่วง attack ต้องใช้ยาแก้บ้านหมุนและยาแก้อาเจียนช่วย

ส่วนช่วงปกติ ต้องจำกัดเกลือโซเดียม เพื่อควบคุมอัตราการสร้างน้ำ endolymph ไม่ให้มากไป แต่ต้องไม่ขาดน้ำนะคะ กาแฟอาจกระตุ้นให้เป็นมากขึ้น บุหรี่เช่นกัน ดังนั้นเลี่ยงได้เลี่ยง

ในรายที่เป็นมาก แพทย์จะมีวิธีการรักษาต่อไปทั้งยาฉีด และการผ่าตัดช่วยค่ะ

17/11/2025

คลินิกหยุด 1 วันค่ะ

14/11/2025

วันเสาร์คิวเต็มแล้วค่ะ
รอคิวหลุดทักinbox)

12/11/2025

เราทุกคนต่างเคยมีช่วงเวลาที่จมอยู่กับความคิดลบ ตั้งแต่การตำหนิตัวเอง ไปจนถึงการจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่า “ความคิดเป็นพิษ” (Toxic Thinking) ซึ่งหากปล่อยไว้นาน อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อความสุข ความสัมพันธ์ และการเติบโตของเราได้

แต่ในอีกมุมหนึ่ง “การเข้าใจกลไกของความคิดเป็นพิษ” ก็ช่วยให้เราเรียนรู้วิธีคิดอย่างมีสติ และพัฒนาทักษะการคิดเชิงบวก (Positive Thinking Skills) ได้เช่นกัน

🧠 ทำไมสมองถึงสร้าง “ความคิดเป็นพิษ”

มนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา สมองของเรามี “ระบบตรวจจับภัย” (threat detection system) ซึ่งทำงานได้ดีเกินไปในบางคน ทำให้เรามักตีความสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นอันตรายหรือความล้มเหลว

กลไกนี้นำไปสู่ รูปแบบการคิดบิดเบือน (cognitive distortions) เช่น

- การคิดลบเกินจริง (Catastrophizing) จินตนาการถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดเสมอ

- การใช้ความรู้สึกแทนข้อเท็จจริง (Emotional reasoning) เมื่อรู้สึกไม่ดี ก็เชื่อว่าตัวเอง “ไม่ดีพอ”

- การโฟกัสแต่จุดผิดพลาดของตัวเอง (Negative self-criticism) ลืมเห็นคุณค่าหรือความสำเร็จเล็ก ๆ ที่มีอยู่

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ “นิสัยไม่ดี” แต่เป็นการตอบสนองอัตโนมัติของสมองที่ต้องการปกป้องเรา เพียงแต่ในโลกปัจจุบัน กลไกนี้กลับสร้างความเครียดและความไม่มั่นใจมากกว่าการปกป้องจริง ๆ

🧠 รากของความคิดเป็นพิษ: จากสิ่งแวดล้อมสู่ความเคยชินทางอารมณ์

ความคิดเป็นพิษไม่ได้เกิดจากสมองอย่างเดียว แต่ยังได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ชีวิตและสภาพแวดล้อมด้วย เช่น

- การเติบโตมาในครอบครัวที่มีการวิจารณ์หรือคาดหวังสูง
- การเผชิญความเครียดเรื้อรังจากงานหรือความสัมพันธ์
- การเสพสื่อที่เน้นข่าวร้ายและดราม่าอย่างต่อเนื่อง

สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ หล่อหลอมให้สมองคุ้นชินกับการมองโลกในแง่ลบ และยากที่จะปรับมุมมองได้ในทันที

🧠 เข้าใจสมอง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์

การฝึกทักษะการคิดเชิงบวก (Cognitive Reframing) ไม่ได้หมายถึงการ “คิดบวกปลอม ๆ” แต่คือการ “ปรับมุมมองทางความคิด” ด้วยความเข้าใจ

- ฝึกสังเกตความคิดโดยไม่ตัดสิน (Mindful Awareness) เพียงแค่รู้ตัวว่า “ตอนนี้เรากำลังคิดในเชิงลบ” ก็เป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงแล้ว

- ตั้งคำถามกับความคิด (Cognitive Challenge) เช่น “หลักฐานที่สนับสนุนความคิดนี้คืออะไร?” หรือ “ถ้าเพื่อนเจอแบบนี้ เราจะพูดกับเขาอย่างไร?”

- โฟกัสสิ่งที่ควบคุมได้ (Control Reorientation) ลดพลังให้กับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และหันมาใช้พลังกับสิ่งที่เปลี่ยนได้จริง

- ฝึกคิดเชิงทางเลือก (Alternative Thinking) เมื่อเจอเหตุการณ์หนึ่ง ลองมองหามุมอื่นที่ “เป็นไปได้” แทนที่จะเชื่อมุมเดียวที่สมองสร้างขึ้น

🧠 จากความคิดเป็นพิษ สู่การคิดอย่างมีสติ

“ความคิดเป็นพิษ” ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องทำลาย แต่คือสัญญาณเตือนว่าเราควร “ชะลอ” และ “ฟังตัวเองให้มากขึ้น” การเข้าใจมันคือการคืนอำนาจในการคิดให้กับเราเอง

การคิดอย่างมีสติและยืดหยุ่นคือทักษะสำคัญของสมองยุคใหม่ ทักษะที่ไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์และความสุขได้เติบโตอีกครั้ง

10/11/2025

สาวๆที่ไมเกรนบ่อยๆ
ลองถอดคอนแทคเลนส์
ถอดขนตาปลอม หลีกเลี่ยงการปัดมาสคาร่าขนตา
และปล่อยผมดูนะคะ
หายค้าบ🤗

09/11/2025

วันนี้คิวบัตรทองมีว่าง
15.30 น.
สนใจจองทักinboxค่ะ💖

ที่อยู่

สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี
Surat Thani

เวลาทำการ

อังคาร 09:00 - 19:00
พุธ 09:00 - 19:00
พฤหัสบดี 09:00 - 19:00
ศุกร์ 09:00 - 19:00
เสาร์ 09:00 - 19:00
อาทิตย์ 09:00 - 19:15

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอหยิน สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง หมอหยิน สุธาสินีคลินิกการแพทย์แผนไทย สุราษฎร์ธานี:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram