หุ่นสวยและสุขภาพดี

หุ่นสวยและสุขภาพดี เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สกัดจากสารธรรมชาติ 100% ประกอบด้วยสารอาหารครบ 5 หมู่ โปรตีน สร้างกล

12 ประโยคสั้นๆ ที่จะทำให้คุณ ‘กล้า’ กระโดดออก จากกรอบเดิมๆถ้า ‘ออร์วิลล์ และ วิลเบอร์ ไรท์’ กลัวแรงลม วันนี้คงไม่มี ‘เคร...
07/09/2018

12 ประโยคสั้นๆ ที่จะทำให้คุณ ‘กล้า’ กระโดดออก จากกรอบเดิมๆ

ถ้า ‘ออร์วิลล์ และ วิลเบอร์ ไรท์’ กลัวแรงลม วันนี้คงไม่มี ‘เครื่องบินลำแรก’ที่พาทุกคนข้ามทวีปในเวลาไม่กี่ชั่วโมงและเราทุกคนคงไม่ได้ออกไปเจอโลกกว้างที่รอการมาเยือนของเราอยู่

ถ้า ‘เกรแฮม เบลล์’ กลัวคลื่นเสียง วันนี้คงไม่มี ‘โทรศัพท์เครื่องแรก’และคงไร้ชื่อ ‘สมาร์ทโฟน’ บนโลกใบนี้ ที่ทำให้ชีวิตของเราเชื่อมโยงกันแบบไร้พรมแดน และไร้กาลเวลาที่จะสื่อสารถึงกัน

ชีวิตจริงก็เช่นกัน ถ้ายัง ‘กลัว’ จนทำให้ตัวเองติดอยู่ในที่เดิม บรรยากาศเดิมสิ่งแวดล้อมเดิม ก็คงไม่มีวันได้เจออะไรแปลกใหม่ที่ดีกว่าและถึงแม้ว่ามันอาจไม่ดีไปกว่าเดิม แต่อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เราเคยเจอมันก็มีคุณค่ากับเรามากมายแค่ไหน

ทุกวันนี้มีเวลาให้ความฝันบ้างไหม? 5 ปีที่แล้วอยากทำอะไร จนมาถึงวินาทีนี้ ได้ทำมันไหม? ใช้ชีวิตแบบสุดๆ กับเค้าบ้างหรือยัง? ทุกวันนี้ทุกอย่างกำลังหมุนวนที่เดิมอยู่หรือเปล่าและการใช้ชีวิตแบบที่ผ่านมาสอนอะไรกับเราบ้างสอนให้เราเดินอยู่ในกรอบชีวิตแบบเดิมๆ หรือมีบางอย่างผลักดันให้เราก้าวออกไปค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ลองตอบดังๆ ในใจให้ตัวเองได้ยินไปถึงหัวใจ

คุณรู้อะไรไหมว่าการเริ่มทำอะไรใหม่ ไม่จำเป็นต้องเริ่มให้มันใหม่จนมันยากเกินจะอยากทำ ขอแค่เริ่มต้นด้วยใจต่อให้ยากแค่ไหนมันก็จะไปต่อได้เอง อาจเริ่มจากเรื่องง่ายๆ อย่างเปลี่ยนทางกลับบ้าน เปลี่ยนเพลงที่ฟัง เปลี่ยนจากแค่กด Like รูปวิวสวยๆ ของคนอื่นแล้วจองตั๋ว เก็บกระเป๋าไปถ่ายมันเองกับมือ เปลี่ยนความคิดด้าน Negative มาเป็นคนคิดบวกจนคนรอบตัวรู้สึกประหลาดใจในความใหม่ของตัวเรา

ถ้าเริ่มที่จะ ‘กล้าทำ’ สักวันจะนำไปสู่การใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด คุณอาจมีคำถามว่า แล้วเราจะเป็นคนกล้าได้อย่างไร? คำตอบไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ How To แต่อยู่ที่การ ‘เปิดใจ’ เมื่อคุณกล้าที่จะเปิดใจตั้งแต่ตอนนี้กำแพงที่เคยขวางกั้นหัวใจก็จะทลายลงอย่างนุ่มนวล แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงคุณจะไม่กลัวที่จะติดอยู่ในกรอบของกำแพงนั้นอีกต่อไป

เช่นเดียวกับที่เมื่อไรคุณเริ่มกล้าที่จะ ‘คิด’ นั่นคือสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมแล้วที่จะพบเจอกับมุมมองใหม่ๆขณะเดียวกันก็เป็นการนับถอยหลังเพื่อพาตัวเองออกไปลงมือทำอะไรตามที่ใจคิดสักที

จงหยุด ‘กลัวแรงลม’ ที่คอยปะทะ เวลาขาทั้งสองกำลังก้าวเดิน เพราะลมแรงที่ปะทะคือสิ่งหนึ่งที่กำลังบอกกับคุณว่าชีวิตของคุณนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน ยังมีสิ่งรอบตัวอีกมากมายที่พร้อมจะพัดพาชีวิตคุณออกไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ แล้วจะมัวรอให้สายลมกวักมือเรียกอีกนานแค่ไหน?

จงหยุด ‘กลัวคลื่นเสียง’ จากคำพูดของใครต่อใคร ที่ทำให้ใจไม่อยากไปต่อในเมื่อเรามีความคิดและหัวใจของตัวเองที่เปี่ยมล้นด้วยความท้าทายดังนั้นให้คุณค่าราคากับเสียงหัวใจของตัวเองมากกว่าเสียงจากลมปากของคนอื่น แล้วอย่าปล่อยให้ชีวิตของเราต้องชะงักติดอยู่กับความกลัวที่ไม่ใช่ของเรา

แม้ว่าวันนี้สิ่งที่ทำอาจไม่ใช่สิ่งใหม่ของโลก อาจไม่เป็นสิ่งใหม่ที่ใครมองเห็น แต่แค่ให้มันเป็นสิ่งใหม่ที่ใจเรียกร้องเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสานต่อพลังชีวิตให้กับตัวเองโดยไม่ต้องยึดติดกับการให้คะแนนของใครคนอื่น

แม้ว่าวันนี้คุณจะเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งแต่ถ้าลองกล้าที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ อีก 10 ปีข้างหน้า คุณอาจจะเป็นคนดังและเป็นคนแรกของโลกที่กล้าใช้ชีวิตในแบบที่คนอื่นต้องตามรอย

สุดท้ายจงกล้าทำอะไรที่ใครยังไม่เคยทำมาก่อน เหมือนกับ เกรแฮม เบลล์, ออร์วิลล์ และวลิ เบอร์ ไรท์ ที่ไม่ยึดติดกับกรอบกำแพงของชีวิต

ผิวของคุณเป็นแบบไหน วันนี้มาไขข้อข้องใจด้วยบิวตี้ควิซนี้ได้เลยนะคะcr.wongnaibeauty
05/09/2018

ผิวของคุณเป็นแบบไหน วันนี้มาไขข้อข้องใจ
ด้วยบิวตี้ควิซนี้ได้เลยนะคะ

cr.wongnaibeauty

สวัสดี วันศุกร สิ้นเดือนจะทำอย่างไรเมื่อทำผิดพลาด?เมื่อคนที่มีจิตใจเข้มแข็งทำผิดพลาด เขาจะไม่เอาแต่โทษตัวเองหรือพูดจาดูถ...
31/08/2018

สวัสดี วันศุกร สิ้นเดือน

จะทำอย่างไรเมื่อทำผิดพลาด?

เมื่อคนที่มีจิตใจเข้มแข็งทำผิดพลาด เขาจะไม่เอาแต่โทษตัวเองหรือพูดจาดูถูกตัวเอง เช่น “ฉันมันไม่เอาไหน” หรือ “ฉันมันไม่ได้เรื่องเลย” คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “จิตใจชอกช้ำทำให้กระดูกแห้ง” (สุภาษิต 17:22, ฉบับมาตรฐาน ) หนังสือ The Power of Resilience กล่าวว่าถ้าคุณอยากเป็นคนเข้มแข็ง “คุณต้องจำไว้ว่าความผิดพลาดและความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เสมอ . . . คุณเลือกได้ว่าจะทำอย่างไรกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

ขอให้มีความสุขในการทำงานวันแรก หลังจากหยุดมาหลายวันนะคะ
14/08/2018

ขอให้มีความสุขในการทำงานวันแรก หลังจากหยุดมาหลายวันนะคะ

07/08/2018
สวัสดีเช้าว้นเสาร์ที่แสนสบาย วันนี้มีใครมีโปรแกรมไปไหนกันบ้างคะ เล่าสู่กันฟัง เผื่อบางคนนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี จะได้เป็นไ...
04/08/2018

สวัสดีเช้าว้นเสาร์ที่แสนสบาย วันนี้มีใครมีโปรแกรมไปไหนกันบ้างคะ เล่าสู่กันฟัง เผื่อบางคนนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี จะได้เป็นไอเดียให้กับเพื่อน ๆ

🌹เป็นไงบ้างคะ หยุดพักผ่อนกันหลายวัน วันนี้ก็ปรับโหมดเข้าสู่การทำงานปกติ มาดูกันว่าจะมีหลักการทำงานอย่างไรให้สำเร็จ⚘การจะ...
31/07/2018

🌹เป็นไงบ้างคะ หยุดพักผ่อนกันหลายวัน วันนี้ก็ปรับโหมดเข้าสู่การทำงานปกติ มาดูกันว่าจะมีหลักการทำงานอย่างไรให้สำเร็จ

⚘การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น เราจะต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ ไม่หยุดยั้ง เช่น พัฒนาในเรื่องบุคลิก พฤติกรรม และวิธีการทำงาน

⚘พัฒนาจุดอ่อนและข้อบกพร่องของตนเองอยู่เสมอ เช่น ถ้าเราอ่อนภาษาอังกฤษก็ควรหาอ่านความรู้เพิ่มเติม พัฒนาแนวคิดแบบใหม่ในการทำงาน
⚘ความอดทน ทำงานอยู่ในคนหมู่มาก จะต้องอดทนต่อการติฉินนินทา ดูหมิ่น คำพูดเสียดสี ความเครียด

ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการทำงานนะคะุ

5 อันตรายจากการใช้มือถือในที่มืดนานๆไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งวัยสูงอายุ ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลา...
27/07/2018

5 อันตรายจากการใช้มือถือในที่มืดนานๆ

ไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งวัยสูงอายุ ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนคงจะมีสมาร์ทโฟนกันคนละอย่างน้อย 1 เครื่อง หรือใครอาจจะมีเป็นแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไปเลย แต่อาการเสพติดโลกออนไลน์ ทำให้เราใช้สมาร์ทโฟนไม่ใช่แค่เพียงพูดคุยผ่านเสียงกันอีกต่อไป

เมื่อเราต้องพิมพ์ ต้องจ้อง ต้องเลื่อนดูภาพไปมาตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาก่อนนอนบนเตียง ทำให้ภาพการเล่นมือถือในห้องนอนเป็นภาพที่คุ้นตา แต่หากเราขี้เกียจถึงขนาดปิดไฟแล้วก็ยังคงนอนเล่นมือถืออยู่ต่อไปอีกสักพัก นานเข้า บ่อยเข้า จะส่งผลเสียอะไรต่อสุขภาพตาของเราบ้าง Sanook! Health จะมาเตือนให้ฟังกันค่ะ

1. เสี่ยงต่ออาการแสบตา ตาแห้ง น้ำตาไหล

2. ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ

3. สายตาไม่ชัด พร่ามัว หรือสายตาสั้นมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

4. มีโอกาสเป็นโรคต้อหิน

5. เส้นประสาทตาถูกทำลาย จนการมองเห็นพร่ามัวมากขึ้น

6. อาจมีความเสี่ยงที่จะตาบอดได้ด้วย (แต่ไม่ได้เป็นมะเร็งที่ตา)

วิธีหลีกเลี่ยงจากอันตรายของการใช้สมาร์ทโฟนในที่มืด

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง

2. ดื่มน้ำบ่อยๆ เพิ่มความชุ่มชื่นในตา หรือหากท่านใดตาแห้งมากๆ หรือใส่คอนแทคเลนส์ ควรใช้น้ำตาเทียมเมื่อมีอาการตาแห้ง

3. ควรเปิดไฟในห้องให้มีความสว่างเพียงพอ

4. ไม่ควรนอนหงายเล่นสมาร์ทโฟน เพราะหน้าจอจะไม่ได้รับแสงสว่างจากโคมไฟบนเพดาน แม้กระทั่งนอนตะแคงก็อาจทำให้ดวงตาต้องเพ่งจ้องที่หน้าจอหนักกว่าปกติเหมือนกัน

5. ไม่ควรจ้องหน้าจอโทรศัพท์นานจนเกินไป ควรมีการพักสายตาบ้าง ทุกๆ 20-30 นาที

ดวงตาของเรามีแค่คู่เดียว อย่าใช้งานหนักจนลืมให้ความสำคัญกันนะคะ เพราะหากดวงตามีปัญหาขึ้นมา เราจะต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมตอนนั้นถึงทำอย่างนี้ รู้งี้ไม่ทำดีกว่า ถึงตอนนั้น็อาจจะสายไปแล้วก็ได้ค่ะ

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์กการออกกำลังกายตอนเย็นถึงค่ำ          การออกกำลังกายช่วงเวลาเย็นถึงค...
18/07/2018

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์ก

การออกกำลังกายตอนเย็นถึงค่ำ

การออกกำลังกายช่วงเวลาเย็นถึงค่ำ เป็นช่วงเวลายอดนิยมของคนทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาหลังจากการทำงาน ทำให้สามารถใช้เวลากับการออกกำลังกายได้เต็มที่ แต่การออกกำลังกายในช่วงเวลานี้ก็มีข้อดี ข้อเสียเช่นกัน

ข้อดี

- โดยทั่วไปแล้วคนเราจะมีอุณหภูมิและฮอร์โมนในร่างกายสูงที่สุดก็ในช่วง 18.00 น เป็นต้นไป ทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

- ความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บน้อย เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายเป็นปกติ

- มีพลังงานในการออกกำลังกายมากกว่าช่วงอื่น ๆ เนื่องจากในช่วงเวลาระหว่างวัน เราได้รับประทานอาหารเข้าไปอย่างเพียงพอแล้ว

- ช่วยผ่อนคลายความเครียด และลดอาการเมื่อยล้าจากการทำงาน เพราะการออกกำลังกายในช่วงเย็นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย จึงจะทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นหลังจากออกกำลังกาย

- ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อเย็นได้ ทำให้ไม่รับประทานมากจนเกินไปในช่วงเย็น

ข้อเสีย

- การออกกำลังกายในช่วงนี้จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและทำให้นอนหลับได้ยาก และนอนหลับได้ไม่สนิทหากนอนทันทีหลังจากออกกำลังกาย ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนและนาฬิกาชีวิต

- หากออกกกำลังกายในช่วงค่ำ สถานที่ในการออกกำลังจะจำกัดลง และอาจจะต้องออกกำลังกายในร่มแทน เพราะหากออกกำลังกายนอกสถานที่จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงได้

- ร่างกายจะเผาผลาญไขมันสะสมได้ช้า เพราะพลังงานทั้งหมดที่จะต้องใช้ในการเผาผลาญไขมันจะถูกใช้ไปกับการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายจะต้องใช้เวลานานขึ้นในการเผาผลาญให้ถึงระดับของไขมันสะสม

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์กออกกำลังกายตอนกลางวันถึงบ่าย          ช่วงกลางวันและช่วงบ่ายเป็นช่ว...
18/07/2018

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์ก

ออกกำลังกายตอนกลางวันถึงบ่าย

ช่วงกลางวันและช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่ และอุณหภูมิในร่างกายจะเป็นปกติ การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายฟื้นตัวจากการพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อดีและข้อเสียของการออกกำลังกายมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

ข้อดี

- ร่างกายมีระดับฮอร์โมนและการไหลเวียนที่สูงกว่าในช่วงเช้าและอยู่ในระดับปกติ ทำให้สามารถออกกำลังกายได้มาก

- ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อกลางวันและมื้อเย็นได้ นอกจากนี้ยังไม่ทำให้กินจุบจิบอีกด้วย

- ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลังจากการทำงานในช่วงเช้า ลดอาการง่วงเหงาหาวนอนในช่วงบ่ายได้ดี

- ช่วยผ่อนคลายความเครียด

- มีการศึกษาพบว่า ระบบการหายใจในช่วงบ่ายจะทำงานได้ดีกว่าในช่วงอื่น ๆ ของวัน

- สามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องอบอุ่นร่างกายมาก เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายอบอุ่นเพียงพอ และ ด็อกเตอร์ David W. Hill ได้เปิดเผยในบทความหนึ่งในวารสาร Ergonomics เมื่อปี 2007 ว่าในช่วงบ่ายของวัน ร่างกายจะมีความแข็งแรงและยืดมากขึ้นกว่าในช่วงเวลาอื่น 5% ทำให้เหมาะกับการออกกำลังกาย

ข้อเสีย

- ถึงแม้ว่าในช่วงบ่ายระบบการหายใจจะดีกว่าช่วงอื่น แต่ในช่วงเที่ยง ระบบการหายใจจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจะทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลง 15 - 20 %

- ในช่วงเที่ยงที่มีเวลาจำกัดจึงทำให้ออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่ และในช่วงบ่ายอาจจะมีภารกิจที่เข้ามาแทรกทำให้การออกกำลังกายน้อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น

ข้อควรปฏิบัติในการออกกำลังกายตอนกลางวันถึงบ่าย

หากต้องการจะออกกกำลังกายในช่วงนี้ควรจะจัดสรรเวลาให้ดีและมีเวลาการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 - 2 ชั่วโมงเผื่อการอบอุ่นร่างกาย และควรควบคุมการรับประทานอาหารหลังจากออกกำลังกายให้ดีเพื่อไม่ให้ทานเยอะจนเกินไป

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์กออกกําลังกายตอนไหนดีที่สุด มาคลายข้อสงสัยกันว่าควรออกกำลังกายเวลาไห...
17/07/2018

ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด เคลียร์ให้ชัด ช่วงไหนเวิร์ก

ออกกําลังกายตอนไหนดีที่สุด มาคลายข้อสงสัยกันว่าควรออกกำลังกายเวลาไหน อย่ารอช้า รีบไปดูคำตอบกันว่าออกกําลังกายเวลาไหนดีที่สุด

ออกกำลังกายตอนเช้า

ช่วงเวลาเช้าหรือหลังตื่นนอนเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากการพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน และหลายคนก็เลือกออกกำลังกายในช่วงเช้า เพราะสามารถทำเป็นกิจวัตรประจำวันได้ ซึ่งการออกกำลังกายในช่วงเช้ามีประโยชน์ดังนี้

ข้อดี

- ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญของร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปได้ทั้งวัน

- ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของหัวใจ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น

- ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และตื่นตัวพร้อมสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นนั่นเอง

- อากาศในช่วงเช้าจะสดชื่นและมีมลพิษน้อยกว่าในช่วงอื่นของวัน ทำให้ในการออกกำลังกายจะรับอากาศที่บริสุทธิ์กว่า อีกทั้งแสงแดดในตอนเช้ายังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย

- มีสมาธิในการออกกำลังกายมากกว่าเพราะมีสิ่งรบกวนน้อย

- สามารถออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อเลือกเวลาเช้าเป็นเวลาออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะเป็นสิ่งแรกที่ทำในแต่ละวัน แตกต่างจากช่วงเวลาอื่นที่อาจจะมีกิจกรรมอื่น ๆ มาแทรกทำให้ไม่ออกกำลังกายได้

ข้อเสีย

- ในการออกกำลังกายตอนเช้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะทำให้ยิ่งอ่อนเพลียยิ่งกว่าเดิม หรือไม่ก็จะทำให้การออกกำลังกายไม่ได้ประสิทธิภาพ เพราะออกกำลังกายเบาเกินไปเนื่องจากไม่มีแรง

- ทำให้ตับทำงานอย่างหนักเพราะในช่วงการนอนหลับ ตับก็ยังคงทำงานอยู่ ทำให้เมื่อตื่นนอนเราจะไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในหลอดเลือดเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย และตับก็จะต้องดึงสารอาหารที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ตับทำงานตลอดเวลาไม่มีการหยุดพัก

- ในช่วงเช้า ร่างกายจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดน้อย ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่

- มีโอกาสบาดเจ็บได้มากกว่า เพราะในช่วงเช้าเป็นช่วงที่อุณหภูมิจะต่ำกว่าช่วงอื่นของวัน ทำให้อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อในขณะที่ออกกำลังกายได้

ข้อควรปฏิบัติในการออกกำลังกายตอนเช้า

หากต้องการออกกำลังกายในช่วงเวลาเช้า ควรจะรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอต่อการออกกำลังกาย และควรอบอุ่นร่างกายให้นานกว่าการออกกำลังกายในช่วงเวลาอื่น ๆ อย่างน้อย 10 - 15 นาที เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นมากพอสำหรับการออกกำลังกาย ที่สำคัญไม่ควรจะรีบรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายหนัก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหายใจไม่ทัน หรือจุกได้ นอกจากนี้ยังควรพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วยค่ะ ในกรณีที่ป่วย ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายเพราะอาจจะทำให้หมดแรงได้ค่ะ

กินโปรตีนอย่างไร ให้ได้ประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อมากที่สุดหลายคนคงทราบดีว่าโปรตีนเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างกล...
10/07/2018

กินโปรตีนอย่างไร ให้ได้ประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อมากที่สุด

หลายคนคงทราบดีว่าโปรตีนเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ แต่ถ้าอยากเสริมสร้างให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ขึ้นเป็นลอนกล้ามสวย ๆ รู้หรือเปล่าว่าร่างกายของผู้ชายควรต้องได้รับโปรตีนในปริมาณเท่าไรต่อวัน ถ้ายังไม่รู้ลองมาดูเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการกินโปรตีนที่เหมาะสม ซึ่งเรานำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ menshealth.co.uk มาให้คนที่กำลังอยากเพิ่มกล้ามเนื้อได้ทราบกันแล้วครับ

โปรตีนนั้น สำคัญไฉน ?

โปรตีนคือสารอาหารหลักของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกรดอะมิโนเส้นยาวที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อทุกมัดในตัวเรา โดยธรรมชาติแล้วร่างกายจะสร้างโปรตีนขึ้นมาได้เอง อยู่ในรูปกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น (Non-essential) แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายก็ไม่สามารถสร้างโปรตีนขึ้นมาได้เพียงพอ จึงทำให้ต้องเสริมโปรตีนชนิดกรดอะมิโมที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential) เข้าไปช่วยซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อด้วยอีกทาง และเมื่อรับประทานอาหารที่มีโปรตีนเข้าไป ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนส่วนที่แตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่ จนเกิดกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อมัดใหม่ รวมถึงสร้างเส้นผมเพิ่มขึ้นนั่นเอง

โปรตีนมากแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ?

นักโภชนาการกล่าวว่า สำหรับคนทั่วไปควรได้รับโปรตีนในปริมาณ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมของร่างกาย นั่นหมายความว่า หากคุณมีน้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม คุณควรได้รับโปรตีนในปริมาณ 64 กรัมต่อวัน และถ้าอยากมีกล้ามให้พอน่ามอง ก็ควรออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกทางด้วย

แต่ในกรณีที่เป็นนักกีฬาอาชีพ นักโภชนาการแนะนำให้กินโปรตีนประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยอย่างน้อย ๆ ควรจะคงระดับโปรตีนปริมาณเท่านี้ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการออกกำลังเพาะกล้าม หลังจากนั้นจึงค่อยลดปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับต่อวันมาเป็น 1.2-1.6 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมตามลำดับ ดังนั้นหากคุณต้องการมีกล้ามแน่นปึ้กอย่างนักกีฬาเล่นกล้ามอาชีพ ก็ควรได้รับปริมาณโปรตีนปริมาณใกล้เคียงนี้ครับ

อย่ากินโปรตีนเยอะเกินไป

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรานาดาเตือนว่า แม้หนุ่ม ๆ อยากจะมีกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัด ๆ ขนาดไหน ก็ควรระมัดระวังปริมาณโปรตีนที่ร่างกายได้รับต่อวันไม่ให้เกินกว่าที่ร่างกายต้องการด้วย เพราะนอกจากที่โปรตีนส่วนเกินเหล่านี้จะไม่มีผลต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้ว หากไม่ขยันออกกำลังกาย โปรตีนส่วนเกินก็จะตกค้าง จนกลายเป็นไขมันได้ในภายหลัง และที่อันตรายกว่านั้นอาจตกค้างอยู่ในตับและไต ก่อโรคร้ายอีกหลายโรคเป็นของแถมให้ด้วย

วิธีสังเกตว่าร่างกายได้รับโปรตีนมากเกินไปหรือเปล่า ให้ดูจากสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะเป็นสีเข้มจัดจนเกือบออกสีน้ำตาลหรือสีดำ ร่วมกับอาการปัสสาวะติดขัด ให้คุณดื่มน้ำสะอาดให้เยอะกว่าปกติ รับประทานผักใบเขียว และกล้วยเพื่อให้ช่วยขับโปรตีนที่ตกค้างอยู่ในตับ และไตออกไปโดยด่วน

โปรตีนที่ได้จากอาหารแต่ละชนิด ไม่เท่ากัน

แม้โปรตีนจะแฝงตัวอยู่ในอาหารหลากชนิด แต่ก็ใช่ว่าร่างกายเราจะได้รับปริมาณโปรตีนจากอาหารแต่ละอย่างเท่ากันนะ ซึ่งอาหารที่มีโปรตีนเยอะที่สุดก็จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยเฉพาะเนื้อไก่ ไข่ ส่วนอาหารประเภทธัญพืช เต้าหู้ และผักบางชนิด ถึงแม้จะมีโปรตีนแฝงอยู่แต่ก็อาจมีปริมาณน้อย จนอาจไม่ช่วยเสริมเรื่องกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นใครที่ฝันอยากมีกล้ามก็จะต้องกินเนื้อสัตว์กับไข่ให้มากหน่อย

แบ่งสัดส่วนโปรตีนออกเป็น 5-6 มื้อย่อยดีกว่า

เนื่องจากร่างกายเราไม่สามารถดึงโปรตีนไปใช้ได้เกิน 30 กรัมต่อมื้ออาหาร แม้จะโหมกินโปรตีนมื้อละ 30 กรัมขึ้นไป ก็คงเสียโปรตีนไปโดยเปล่าประโยชน์ นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสจึงแนะนำให้แบ่งสัดส่วนโปรตีนออกเป็น 5-6 มื้อย่อย ๆ ดีกว่าโหมกินโปรตีนครบโดสในครั้งเดียว

กินก่อนหรือหลังออกกำลังกายดี ?

นักโภชนาการแนะนำให้กินหลังออกกำลังภายใน 30 นาทีให้หลัง เนื่องจากหลังออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนและฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเข้าไปลดความเข้มข้นของโปรตีนในร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อได้รับโปรตีนไปบำรุงไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อที่หวังจะให้ขึ้นก็ไม่ขึ้น อีกทั้งการเสริมโปรตีนหลังออกกำลังมาอย่างหนัก จะช่วยเข้าไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอจนกลับมาเป็นปกติดังเดิม

วิธีกินโปรตีนอย่างเหมาะสม

สำหรับผู้ชายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อแน่น ๆ ควรต้องกินโปรตีนเสริมอย่างจริงจังตามที่เราแนะนำไป แต่หากคุณแค่ต้องการให้หุ่นเฟิร์ม ลดน้ำหนักโดยไม่เน้นกล้ามหรือซิกแพค ก็สามารถกินโปรตีนตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมก็พอ เพราะตามกลไกธรรมชาติแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันเป็นโปรตีนได้ก็ต่อเมื่อไขมันส่วนเกินในร่างกายเกิดการเบิร์นด้วยการออกแรง ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกินโปรตีนเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างบรรดานักเล่นกล้ามหรอกครับ

คราวนี้ก็ได้รู้กันไปแล้วว่าโปรตีนมีบทบาทสำคัญอย่างไรกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หนุ่ม ๆ คนไหนอยากมีกล้ามเนื้อและซิกแพคแน่นปึ้ก อย่าลืมกินโปรตีนตามที่เราแนะนำกันด้วยนะคะ

ที่อยู่

สาธุประดิษฐ์ 14 บางโคล่ บางคอแหลม
Bangkok
10120

เบอร์โทรศัพท์

+66961644594

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หุ่นสวยและสุขภาพดีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram