02/12/2025
ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว
พี่หมอมีวิธีดูแล ป้องกันเด็กๆ จากอาการไอ/หอบเหนื่อย
ในช่วงหน้าหนาว มาฝากกันค่ะ^^
#บ้านใจแม่กับหมอแพนต้า #คลินิกเด็กหมอธนัชชา
🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸
🎄🍀คลินิกเด็กหมอธนัชชา🍀🎄
🌼แพทย์เฉพาะทางกุมารแพทย์ โรงพยาบาลยโสธร
🥑ตรวจรักษาโรคเด็ก โรคทั่วไปผู้ใหญ่
🥑ปรึกษาสุขภาพเด็ก
🥑ฉีดวัคซีนเด็ก และผู้ใหญ่
🥑ฉีดยาคุมกำเนิด
🥑ใบรับรองแพทย์
———————————————————————
ที่ตั้ง : ตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากร ติดตลางโต้รุ่ง ในเมืองยโสธร (ตึกสีชมพู)
⏰ เวลาทำการ
⏰จันทร์-พุธ และศุกร์
เที่ยง 12.00-13.00 น.
เย็น 17.30-20.00 น.
⏰เสาร์ – อาทิตย์
เช้า 9.30-12.00 น
เย็น 17.30-20.00 น.
❌❌❌❌ปิดวันพฤหัสบดี ❌❌❌❌
—————————————————————————
☎️ ติดต่อสอบถาม
- FB : คลินิกเด็กหมอธนัชชา
- Line OA:
- โทร. 06-2727-7076
ช่วงนี้อากาศเย็นลงทั่วไทย โดยเฉพาะตอนกลางคืน เด็กๆ หลายคนเริ่มมีอาการไอ น้ำมูกไหล หายใจมีเสียงดัง หรือบางคนถึงขั้น “หอบเหนื่อย” จนพ่อแม่ใจหาย การเปลี่ยนแปลงของอากาศทำให้เชื้อไวรัสทางเดินหายใจระบาดง่ายขึ้น เด็กเล็กโดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปีจึงป่วยกันเยอะเป็นพิเศษ
1) อากาศเย็นมีผลอย่างไรกับระบบหายใจเด็ก?
– เยื่อบุจมูกแห้ง ทำให้เชื้อไวรัสเกาะได้ง่าย
– หลอดลมไวขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีประวัติภูมิแพ้หรือเคยเป็นหลอดลมอักเสบ
– เชื้อไวรัส RSV, Influenza และ Rhinovirus ระบาดเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
2) วิธีป้องกันเด็กไม่ให้ป่วยบ่อยในช่วงนี้
• ทำให้บ้านอุ่นขึ้น โดยเฉพาะตอนกลางคืน
• หลีกเลี่ยงอาบน้ำเย็น เด็กเล็กควรใช้น้ำอุ่นและซับตัวให้แห้งทันที
• สวมเสื้อผ้าอบอุ่น โดยเฉพาะช่วงตี 2–ตี 5 ที่อากาศเย็นที่สุด
• ล้างมือให้สะอาดเสมอ เพราะเชื้อส่วนใหญ่ติดต่อจากมือ
• หลีกเลี่ยงคนป่วย และสถานที่ปิดแออัด
• ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เด็ก เพราะลดโอกาสป่วยหนักได้จริง
• หมั่นเปิดหน้าต่างให้บ้านมีอากาศถ่ายเทวันละ 30 นาที
3) วิธีดูแลเมื่อเด็กเริ่มมีอาการไอ–น้ำมูก
• ให้ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ช่วยให้เสมหะนิ่ม
• ใช้น้ำเกลือล้างจมูกตอนเช้า–ก่อนนอน
• เปิดเครื่องพ่นไอน้ำ (humidifier) เพื่อเพิ่มความชื้นในห้อง
• หลีกเลี่ยงยาลดไอในเด็กเล็ก เพราะหลายชนิดไม่แนะนำ
• ถ้าไอมีเสมหะมาก ให้จัดท่านอนตะแคงหรือยกหัวเตียงสูงเล็กน้อย
• ให้พักผ่อนมากๆ งดวิ่งเล่นหนักๆ สัก 1–2 วัน
4) สัญญาณเตือน “ต้องพามาพบแพทย์ทันที”
• หายใจเร็วผิดปกติ หน้าอกบุ๋ม จมูกบาน
• หายใจมีเสียง “วี้ด” หรือเสียงดังครืดคราดมาก
• ไข้สูงเกิน 38.5°C นานเกิน 2–3 วัน
• เด็กซึม กินนมน้อยลง หรืออาเจียนมาก
• ตัวเขียว ปากเขียว มือเท้าเย็น
• เด็กต่ำกว่า 1 ปี ที่มีอาการไอหอบ ควรพบแพทย์ทุกครั้ง
5) การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
• ทำให้บ้านปลอดฝุ่นและควันต่างๆ
• หลีกเลี่ยงพรม หมอนที่สะสมไรฝุ่น
• ให้เด็กออกแดดอ่อนๆ ตอนเช้าเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ด้วยรักและห่วงใย
#บ้านใจแม่กับหมอแพนต้า #หน้าหนาว #สุขภาพเด็ก #เลี้ยงลูกเชิงบวก